ข้อสังเกตเมื่อไฟฟ้าภายในบ้านตก สังเกตจากการหรี่ของหลอดไฟฟ้า ตู้เย็นทำงานผิดปกติ เช่น มีเสียงดังผิดปกติ
 

การแก้ปัญหาเบี้องต้น ถอดปลั๊กตู้เย็นออก ไม่ควรเสียบปลั๊กไฟฟ้าทันที ควรรอเวลาอย่างน้อย 15 นาทีจึงเสียบปลั๊กไฟฟ้าใหม่ เนื่องจากภายในตู้เย็นหลังจากตัดกระแสไฟฟ้าแล้วจะยังมีแรงดันสูงอยู่ภายใน ระบบทำความเย็น เมื่อเสียบปลั๊กไฟฟ้ามอเตอร์คอมเพรสเซอร์จะอัดแรงดันเพื่อเริ่มต้นการทำงาน ซึ่งจะต้องทำงานหนักมาก จนอาจเกิดชำรุดที่มอเตอร์คอมเพรสเซอร์ได้ จึงควรปล่อยให้แรงดันลดลงก่อนจึงเสียบปลั๊กไฟฟ้า เพื่อให้มอเตอร์คอมเพรสเซอร์ทำงานได้ง่ายขึ้น

1. ไม่ควรถอดหรือเสียบปลั๊กตู้เย็นในเวลาสั้นๆ เพราะจะเป็นสาเหตุทำให้คอมเพรสเซอร์เสียบหายได้ เช่น คอมป์น็อค ลูกสูบติด
2. อย่าราดน้ำลงบนตู้เย็นทั้งภายในและภายนอก เพราะจะทำให้เกิดสนิมและไฟฟ้าอาจรั่วได้
3. ห้ามใช้เบนซินหรือทินเนอร์เช็คทำความสะอาดตู้เย็น เพราะจะทำให้สีที่เคลือบลอกออก ควรใช้ผ้าชุบน้ำสบู่ทำความสะอาดภายในและภายนอก
4. ควรปิดประตูตู้เย็นให้สนิทและไม่เปิดหรือปิดตู้เย็นบ่อยๆซึ่งจะช่วยยืดอายุการใช้งานของตู้เย็น และยังเป็นการประหยัดพลังงานไฟฟ้า
5. ควรเก็บอาหารหรือแช่ของในตู้เย็นให้มีช่องว่างสำหรับถ่ายเทความเย็นอย่างสม่ำเสมอ อย่าวางสิ่งของกีดขวางช่องระบายลมเย็น เพราะจะทำให้ความเย็นลงมาน้อย
6. ไม่ควรแช่อาหารหรือสิ่งของที่มีความร้อนในตู้เย็น เพราะอาจทำให้สิ่งของที่อยู่รอบข้างเสียหายได้ และเป็นการเพิ่มภาระงานให้แก่คอมเพรสเซอร์ของตู้เย็น และถ้าต้องการทำน้ำแข็งให้เทน้ำใส่ถาดทำน้ำแข็ง ระวังอย่าให้ล้น แล้วใส่ถาดทำน้ำแข็งเข้าไปในช่องทำน้ำแข็ง เมื่อต้องการใช้น้ำแข็งให้บิดถาดน้ำแข็ง ไม่ควรหักหรืองอที่ใส่น้ำแข็ง เพราะจะทำให้ถาดทำน้ำแข็งเสียหายได้
7. ยางแม่เหล็ก (GASKET) ควรทำความสะอาดบ่อยๆโดยใช้แปรงอ่อนๆจุ่มน้ำสบู่ถูเบาๆแล้วใช้ชุปน้ำหมาดๆเช็ดให้แห้ง ในกรณีที่ยางประตูที่ใช้งานมานานและยางประตูแข็ง จะต้องเปลี่ยนอันใหม่ เนื่องจากยางปรตูที่แข็งจะไม่ค่อยดูดกับตัวตู้ จึงทำให้ความเย็นออกมานอกตู้เย็น ทำให้คอมเพรสเซอร์ทำงานหนัก และต้องเสียค่าไฟฟ้ามากกว่าปกติ
8. ถาดรองน้ำทิ้งหลังตู้ หากปล่อยให้น้ำแข็งเกาะหนาเกินไป เมื่อกดละลายจะทำให้มีน้ำไหลลงถาดรองน้ำทิ้งมากเกินไปที่จะรองรับและระเหยอัตโนมัติได้จึงจำเป็นที่ผู้ใช้ต้องถ่ายเทน้ำจากถาดรองรับทิ้งด้วย
9. การละลายน้ำแข็ง ควรละลายน้ำแข็งเมื่อมีน้ำแข็งจับที่ผิวของช่องแช่แข็งหนาปิดปุ่มพลาสติกสีแดง เมื่อกดปุ่มละลายระบบทำความเย็นจะหยุดทำงาน เมื่อน้ำแข็งละลายหมด ให้ถอดถาดรองน้ำทิ้งออกไปเททิ้งและทำความสะอาดจากนั้นประกอบเข้าที่เดิมให้สนิท

1. นำสิ่งของออกจากตู้เย็นให้หมดแล้วถอดปลั๊กไฟฟ้าออก
2. ทำความสะอาดตู้เย็น เช็ดให้แห้งและปิดประตูตู้เย็นไว้ตามปกติ

ในบางครั้งอาจมีไอน้ำเกาะข้างตู้เย็น โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อมีความชื้นสัมพัทน์ในอากาศสูง ให้ใช้ผ้าแห้งเช็คทำความสะอาด

1. ปุ่มปรับอุณหภูมิถูกปรับสูงเกินไป

2. อาหารหรือสิ่งของที่แช่มีความชื้นสูง เมื่ออาหารสัมผัสกับอากาศเย็นจัดจะทำให้ความชื้นนั้นแข็งตัว ซึ่งไม่ได้หมายความว่าเครื่องผิดปกติ

1. ติดตั้งตู้เย็นในที่เอียง พื้นที่ติดตั้งไม่เรียบหรือไม่สม่ำเสมอ

2. บริเวณใกล้ตู้เย็นมีการสั่นสะเทือนหรือไม่มั่นคง

3. ถ้าเสียงดังจากคอมเพรสเซอร์หรือพัดลม เกินระดับปกติแจ้งช่างผู้ชำนาญการเข้าตรวจสอบ

1. ปุ่มปรับอุณหภูมิอยู่ในตำแหน่งที่ไม่เหมาะสม

2. ไฟฟ้าตก

3. บรรจุของในตู้เย็นมากเกินไป

4. ฝาหรือประตูปิดไม่สนิท หรือแถบแม่เหล็กที่ฝาหรือปร้ะตูตู้เย็นเสื่อม

5. ตู้เย็นตั้งอยู่จุดอับหรือุณหภูมิสูงเกินไป

ข้อสังเกต ไฟเข้าหรือไม่ สังเกตจากหลอดไฟส่องสว่างติดหรือไม่ ถ้าไฟส่องสว่างภายในตัวตู้ติด แต่คอมเพรสเซอร์ไม่ทำงานต้องแจ้งช่างผู้ชำนาญเข้าตรวจสอบ

สาเหตุ เพราะว่า ด้านข้างตู้เย็นซ้ายและขวามีคอนเดนเซอร์(Condensor) ทำหน้าที่ให้น้ำยาในสถานะที่เป็นแก๊สกลั่นตัวเป็นของเหลวด้วยการระบายความ ร้อนออกจากน้ำยานั้น กล่าวคือ น้ำยาในสถานะแก๊ส อุณหภูมิสูง ความดันสูง ซึ่งถูกอัดส่งมาจากคอมเพรสเซอร์เมื่อถูกระบายความร้อนแฝงออกจะกลั่นตัวเป็น ของเหลว แต่ยังคงมีความดันและอุณหภูมิสูงอยู่ ซึ่งจะมีผลทำให้ด้านข้างของตู้เย็นทั้งด้านซ้ายและด้านขวามีความร้อนในขณะ ที่คอมเพรสเซอร์ทำงาน

1. ถอดปลั๊กตู้เย็นออก

2. ถ้าย้ายสถานที่ใหม่ควรบรรจุหีบห่อให้เรียบร้อย

3. ห้ามวางหรือขนย้ายตู้เย็นในลักษณะนอนราบหรือเอียงได้ไม่เกิน 45 องศา

การติดตั้งตู้เย็นอย่างถูกวิธีจะช่วยให้ตู้เย็นมีอายุการใช้งานเพิ่มมากขึ้น และยังช่วยป้องกันอันตรายอันเกิดจากตู้เย็นได้อีกด้วย

1. ควรตั้งตู้เย็นในที่เรียบและสม่ำเสมอ ถ้าตั้งในที่ไม่เรียบจะทำให้ตู้เย็นสั่นและมีเสียงดัง นอกจากนี้ยังช่วยป้องกันตู้เย็นเคลื่อนที่เวลาเปิดประตูตู้เย็น
2. ควรติดตั้งในที่อากาศถ่ายเทสะดวก ด้านหลังห่างจากผนังไม่น้อยกว่า 10 เซนติเมตร ด้านบนควรห่างจากเพดานไม่ต่ำกว่า 30 เซนติเมตร ด้านข้างทั้งสองข้างห่างจากผนังไม่ต่ำกว่า 5 เซนติเมตร
3. ไม่ควรตั้งตู้เย็นในที่ที่มีอุณหภูมิสูง เช่น ที่มีแสงแดดส่อง ใกล้เตาแก๊ส ตู้อบ
4. ไม่ควรตั้งตู้เย็นในที่อับชื้น ที่มีน้ำกระเด็นถึงหรือใกล้อ่างล้างมือ
5. ไม่ควรใช้ปลั๊กไฟฟ้าร่วมกับเครื่องใช้ไฟฟ้าอื่นๆ

- ตรวจสอบปลั๊กไฟเสียบแน่นหรือไม่
- ตรวจสอบการตั้งเวลาทำงาน อยู่ในโหมดแช่ผ้าหรือตั้งเวลาซักล่วงหน้าหรือไม่
(หากหมุนจนสุดหรือเกินเลข 15 จะเข้าสู่โหมดแช่ผ้าและโหมดตั้งเวลาซักล่วงหน้า โดยเครื่องจะทำงานและหยุดสลับจนครบจึงจะเริ่มซักหมุนต่อเนื่องเพื่อซักผ้า)

ลิงค์เพิ่มเติม : https://ttcqr.com/artqwX

- เป็นการทำงานปกติ การหมุนไปกลับของใบพัดจะมีเวลาหน่วงในการหมุน ซึ่งแต่ละครั้งอาจเกิดความหน่วงไม่เท่ากัน สำหรับโปรแกรม  Normal (ซักปกติ) ประมาณ 1.5 - 4.5 วินาที และ โปรแกรม Heavy (ผ้าสกปรก) ประมาณ 2.5 - 5.5 วินาที

- ตรวจสอบปิดฝาถังเรียบร้อยหรือไม่ หากปิดแล้วแต่ยังคงไม่ทำงาน โปรดติดต่อศูนย์บริการ
- ลูกบิดตั้งเวลาทำงานหรือไม่ หากไม่ทำงานโปรดติดต่อศูนย์บริการ

- ตรวจสอบปุ่มถ่ายน้ำทิ้งปิดอยู่หรือไม่ หากปิดแล้วยังคงมีน้ำไหลออก โปรดติดต่อศูนย์บริการ

- ผ้าในถังอาจไม่สมดุลย์ โปรดเกลี่ยผ้า หรือ ลดปริมาณผ้า ในช่วงเริ่มต้นอาจมีเสียงดังและสั่นจากการเร่งรอบความเร็ว เมื่อเกิดแรงเหวี่ยงและผ้าเริ่มหมาดจะเงียบลง

ความยาว 1.25 เมตร

- มีการตั้งโหมดป้องกันเด็ก สามารถยกเลิกได้โดย กด Water Level (ระดับน้ำ) และ  Preset  (ตั้งเวลา) พร้อมกัน

- ตรวจสอบความสมดุลย์การวางเครื่อง ปรับขา หรือ เสริมฐานเครื่องให้เสมอกัน
- ผ้าในถังอาจไม่สมดุลย์ โปรดเกลี่ยผ้า หรือ ลดปริมาณผ้า 

- ตรวจสอบฝาถังปิดอยู่หรือไม่ หากปิดอยู่ให้เปิดและปิดอีกครั้ง กด Start

- ผ้าในถังอาจไม่สมดุลย์ โปรดเกลี่ยผ้า หรือ ลดปริมาณผ้า
- ตรวจสอบสิ่งแปลกปลอมในถัง เช่น เหรียญ กิ๊บติดผม เหรียญ โครงชุดชั้นใน ตกลงไปในถังหรือก้นถังหรือไม่ หากไม่พบสิ่งแปลกปลอม โปรดติดต่อศูนย์บริการ

ไม่สามารถเปิดได้เนื่องจากมีระบบป้องกันความปลอดภัย กรณีต้องการเปิด ต้องหยุดการทำงาน

- ตรวจสอบได้โดยการถอดน๊อตล๊อคการเคลื่อนที่ของถังขณะขนย้าย 4 ต้ว หลังเครื่องว่าถอดออกแล้วหรือไม่ เนื่องจากหากยังไม่ถอดจะทำให้เครื่องสั่นอย่างรุนแรงขณะปั๋นรอบความเร็วสูง

ลิงค์เพิ่มเติม : https://ttcqr.com/eptaW6

- ตรวจสอบน้ำเข้าเครื่อง ก๊อกหรือวาล์วน้ำปิดอยู่หรือไม่
- ตรวจสอบท่อน้ำทิ้งวางต่ำกว่าถังซักหรือไม่ หากต่ำกว่าเครื่องจะไม่ทำการเก็บกักน้ำ

- ตรวจสอบท่อน้ำทิ้งวางต่ำกว่าถังซักหรือไม่ หากต่ำกว่าเครื่องจะไม่ทำการเก็บกักน้ำ

- ตรวจสอบความเหมาะสมของปริมาณผ้ากับน้ำหนักเหมาะสมหรือไม่ มีผ้าจับตัวกันเป็นก้อนหรือไม่ โปรดลดปริมาณผ้า หรือ เกลี่ยผ้า เพื่อให้เครื่องทำงานได้เต็มประสิทธิภาพ ให้ความร้อนสามารถผ่านได้อย่างทั่วถึง

ลิงค์เพิ่มเติม : https://ttcqr.com/dVfYLt

- ตรวจสอบความเหมาะสมของปริมาณผ้ากับน้ำหนักเหมาะสมหรือไม่ มีผ้าจับตัวกันเป็นก้อนหรือไม่ โปรดลดปริมาณผ้า หรือ เกลี่ยผ้า หากระบบตรวจจับยังพบความชื้นในผ้าจะเพิ่มเวลาอบแห้งโดยอัตโนมัติ

ลิงค์เพิ่มเติม : https://ttcqr.com/kezr7a

- ตรวจสอบสิ่งแปลกปลอมในถัง เช่น เหรียญ กิ๊บติดผม กระดุม โครงชุดชั้นใน ในถังหรือไม่ หากไม่พบสิ่งแปลกปลอม โปรดติดต่อศูนย์บริการ

- สามารถทำได้ หากแต่บริเวณที่ใช้งานควรเป็นสถานที่เปิดโล่ง สามารถกระจายความร้อนได้ดี กรณีเป็นพื้นที่ปิดควรต่อท่อนำความร้อนออกไปด้านนอก

- ตรวจสอบความเหมาะสมของปริมาณผ้ากับน้ำหนักเหมาะสมหรือไม่ มีผ้าจับตัวกันเป็นก้อนหรือไม่ โปรดลดปริมาณผ้า หรือ เกลี่ยผ้า หากระบบตรวจจับยังพบความชื้นในผ้าจะเพิ่มเวลาอบแห้งโดยอัตโนมัติ

- ไฟสัญลักษณ์ การติดตั้งสายดิน (Earth) ติดหรือไม่ หากไม่ติด โปรดติดต่อช่างติดตั้งตรวจสอบการติดตั้งสายดิน หรือ การต่อสายไฟเข้าเครื่องทำน้ำอุ่น
- ตรวจสอบเบรคเกอร์ตัดการทำงานหรือไม่ ลองเปิดเบรคเกอร์อีกครั้ง
- ระบบตัดไฟทำงาน กดปุ่ม Reset ที่แผงควบคุม
หมายเหตุ :
- หากกดปุ่ม Reset หรือ เปิดเบรคเกอร์แล้ว มีการตัดการทำงานอีกครั้ง โปรดติดต่อศูนย์บริการใกล้บ้าน

ลิงค์เพิ่มเติม : https://ttcqr.com/Cnz1er 
ลิงค์เพิ่มเติม : https://ttcqr.com/aJhGUr

- ตรวจสอบวาล์วจ่ายน้ำ หรือ ก๊อกน้ำ ว่าเปิดอยู่หรือไม่
- ตรวจสอบการปรับแรงดันน้ำเข้าเครื่องทำน้ำอุ่น ลองปรับให้สูงขึ้น
- ตรวจสอบตัวกรองที่วาล์วจ่ายน้ำเข้า : หากมีสิ่งอุดตัน ใช้แปรงสีฟันทำความสะอาด
- ตรวจสอบฝักบัวอุดตันหรือไม่ : ทำความสะอาดโดยแช่ในน้ำอุ่นและใช้แปรงสีฟันแปรง
- หากไม่ได้ใช้ฝักบัวที่มากับตัวเครื่อง โปรดเลือกฝักบัวให้เหมาะสม เนื่องจากมีผลต่อปริมาณการไหลของน้ำ
- ตรวจสอบการติดตั้งวาล์วปรับแรงดันน้ำถูกต้องหรือไม่ : วาล์วปรับแรงดันน้ำ ต้องติดตั้งด้านน้ำเข้าเสมอ
- แรงดันน้ำไหลเข้า ต่ำกว่า 1.2 ลิตร/นาที
หมายเหตุ : หากติดตั้งวาล์วปรับแรงดันน้ำ ด้านน้ำออก จะทำให้เกิดความเสียหายแก่ หม้อต้ม, ท่อน้ำต่างๆ

ลิงค์เพิ่มเติม : https://ttcqr.com/dDXjz7

ลิงค์เพิ่มเติม : https://ttcqr.com/QxR71P

ลิงค์เพิ่มเติม : https://ttcqr.com/86uvVY

- ตรวจสอบการติดตั้งสายน้ำเข้า + ออก ให้ถูกต้อง : สัญลักษณ์ที่จุดต่อสาย สีน้ำเงิน คือ ด้านน้ำเข้า, สีแดง คือ ท่อน้ำออก (น้ำร้อน)
- น้ำไหลแรงเกินไปหรือไม่ : หากมีแรงดันน้ำที่มากเกิน จะทำให้น้ำได้รับความร้อนจากหม้อต้มน้อยเกินไป : ปรับลดแรงดัน หรือ เพิ่มระดับอุณหภูมิ

ลิงค์เพิ่มเติม : https://ttcqr.com/nLgVLz

- ตรวจสอบการปรับแรงดันน้ำ : หากปรับแรงดันน้ำเบาเกินไป จะทำให้น้ำที่ไหลออกน้อยลงและมีความร้อนสูงขึ้น
- ตรวจสอบการปรับระดับอุณหภูมิ : ลดการปรับอุณหภูมิ

ลิงค์เพิ่มเติม : https://ttcqr.com/r7Natc

ตรวจสอบการติดตั้งฝักบัวต่ำกว่าตัวเครื่องหรือไม่

ตรวจสอบการติดตั้งวาล์วปรับแรงดันผิดด้านหรือไม่ : ติดตั้งด้านน้ำเข้า (สีฟ้า) เสมอ  
หมายเหตุ : หากตรวจสอบการติดตั้งแล้ว ยังพบน้ำรั่วให้ปิดเบรคเกอร์ ติดต่อศูนย์บริการใกล้บ้าน

- ตรวจสอบปลั๊กไฟ หรือรอไฟฟ้ากลับมาปกติ
- ตรวจสอบการเปลี่ยนไส้กรองตามระยะเวลาที่แนะนำในคู่มือ โปรดเปลี่ยนไส้กรองตามคำแนะนำและทำความสะอาดไส้กรองคาร์บอนก่อนติดตั้งทุกครั้ง
- ตรวจสอบการเปิดวาล์วน้ำ : เปิดวาล์วให้สุด
- ตรวจสอบแรงดันแหล่งน้ำเข้าเปรียบเทียบกับอุปกรณ์ชนิดอื่น หากแรงดันน้ำเบาโปรดปรึกษาการประปา
- สำหรับเครื่องกรองน้ำ RO จะเริ่มระบายน้ำความเข้มข้นสูงออกก่อน จึงจะมีน้ำบริสุทธิ์ไหลออกมา
- สำหรับเครื่องกรองน้ำ RO โปรดตรวจสอบจุกปิดช่องน้ำทิ้ง หรือ การต่อท่อน้ำทิ้ง โปรดดูคู่มือการติดตั้ง
- สำหรับรุ่น TWP-N1890UK(W) โปรดตรวจสอบไฟเตือนการเปลี่ยนไส้กรอง หากกระพริบ โปรดเปลี่ยนไส้กรอง
- สำหรับรุ่น TWP-N1890UK(W) กดน้ำไม่ออก โปรดตรวจสอบการสายน้ำดีว่าต่อเข้ากับฐานเหยือก และ ปิดฝาเหยือก เรียบร้อยหรือไม่ (หากไม่ปิดจะไม่สามารถกดน้ำได้)
- สำหรับ TWP-N1890UK(W) น้ำหยุดไหลเมื่อยกเหยือกออก  : เป็นปกติ ระบบหยุดการจ่ายน้ำอัตโนมัติ

ลิงค์เพิ่มเติม : https://ttcqr.com/Qk12p7

ลิงค์เพิ่มเติม : https://ttcqr.com/SGk476

ลิงค์เพิ่มเติม : https://ttcqr.com/SsQ55R

- หากไม่มีการใช้งานเกิน 3 วัน โปรดเปิดน้ำทิ้ง ประมาณ 5 นาที
- โปรดตรวจสอบน้ำที่ใช้กรองอาจต่ำกว่าเกณฑ์มาตรฐานน้ำประปา
- ตรวจสอบการเปลี่ยนไส้กรองตามระยะเวลาที่แนะนำในคู่มือ โปรดเปลี่ยนไส้กรองตามคำแนะนำ
- สำหรับรุ่น TWP-W1643SK(W), TWP-W1743STH(W) การใช้งานครั้งแรก หรือ เปลี่ยนไส้กรองคาร์บอนชิ้นใหม่  โปรดล้างไส้กรองคาร์บอนด้วยชุดล้างที่ติดไป ทุกครั้งก่อนติดตั้งไส้กรอง

ลิงค์เพิ่มเติม : https://ttcqr.com/zTP1xG

- ตรวจสอบจุดต่อท่อน้ำเข้า + ออก มีการหลุดหลวมหรือไม่ สวมสายให้ชิดกับจุดต่อ หากติดตั้งเรียบร้อยยังพบน้ำรั่ว ปิดแหล่งจ่ายน้ำ และ ติดต่อศูนย์บริการ
- ตรวจสอบจุดต่อท่อน้ำภายในเครื่องกรองน้ำ หาก หลุด หลวม โปรดปิดแหล่งจ่ายน้ำ และ ติดต่อศูนย์บริการ
- สำหรับรุ่น TWP-W1643SK(W), TWP-W1743STH(W) หากพบน้ำรั่วหลังจากเปลี่ยนไส้กรอง ไฟหยดน้ำหน้าเครื่องกะพริบเตือนรูปหยดน้ำ โปรดถอดปลั๊ก ปิดแหล่งจ่ายน้ำ เช็ดน้ำและเป่าให้แห้ง จนไฟรูปหยดน้ำดับ เนื่องจากมีน้ำรั่วลงตำแหน่งเซ็นเซอร์

ลิงค์เพิ่มเติม : https://ttcqr.com/a58VZ1

- ตรวจสอบสวิทช์น้ำเย็นเปิดอยู่หรือไม่
- หากกดน้ำดื่มอย่างต่อเนื่องจนหมด ต้องรอการทำความเย็นรอบต่อไป เนื่องจากแทงค์น้ำเย็นมีความจุประมาณ 2-3 ลิตร

- ตรวจสอบสวิทช์น้ำร้อนเปิดอยู่หรือไม่
- หากกดน้ำดื่มอย่างต่อเนื่องจนหมด ต้องรอการทำความร้อนรอบต่อไปประมาณ 15 นาที แทงค์น้ำร้อนมีความจุประมาณ 1 ลิตร

- ตรวจสอบระดับพื้นที่วาง หรือ ย้ายตำแหน่งติดตั้ง
- ตรวจสอบสายน้ำ เข้า + ทิ้ง เกิดการสั่นหรือไม่ โปรดตรวจสอบการสวมสายน้ำให้ชิดและจัดเก็บสายน้ำให้แน่น
- หากเกิดเสียงดังจากภายในตัวเครื่องกรองน้ำ โปรดติดต่อศูนย์บริการ

 เป็นการแจ้งเตือนปกติ ไฟแสดงน้ำร้อน หรือ เย็น จะติดเมื่อมีการทำงานของระบบน้ำร้อนหรือน้ำเย็น

- ตรวจสอบสัญญาณอินเตอร์เน็ต จากเราท์เตอร์
- ตรวจสอบสถานะการเชื่อมต่อกับแอพ TSmartLife
- กรณีสัญญาณอินเตอร์เน็ตปกติ ให้ลอง ทำขั้นตอนเพิ่มอุปกรณ์ใหม่อีกครั้ง

- ตรวจสอบน้ำในถังหมดหรือไม่ หรือ ปริมาณน้ำในถังมีเพียงพอหรือไม่
- กรณีกดน้ำร้อนไม่ออก กดปุ่มปลดล็อควาล์วจ่ายน้ำสีแดงทุกครั้ง และใช้ภาชนะดันวาล์วเพื่อรับน้ำ

- กรณีถังล่าง ตรวจสอบท่อดูดน้ำที่เสียบลงถัง และ สายรัด จุดต่อท่อน้ำเข้า หลุดหลวมหรือไม่ หากปกติหรือแก้ไขแล้วยังพบน้ำรั่ว โปรดติดต่อศูนย์บริการ
- หากจุดต่อท่อน้ำภายในเครื่องหลุด หลวม นำถังน้ำออก และติดต่อศูนย์บริการ
- โปรดตรวจสอบประเภทถังน้ำ สำหรับถังน้ำแบบขุ่น คอถังสั้นไม่สามารถใช้งานได้ จะทำให้ถังเสียรูป และ มีน้ำรั่วที่ขอบถัง โปรดใช้ถังใส คอยาว

เป็นอาการปกติ น้ำอุณหภูมิห้อง เก็บในถังเก็บเดียวกันกับน้ำเย็น แบ่งการใช้น้ำจากส่วนบน หากไม่ได้กดน้ำใช้งาน น้ำจะมีความเย็นทั้งแทงค์ ดังนั้น เมื่อกดครั้งแรกจึงเป็นน้ำเย็น หากกดหลายๆครั้ง น้ำในถังจะไหลลงไปแทนที่ อุณหภูมิน้ำก็จะใกล้เคียงกับอุณหภูมิห้อง

ลิงค์เพิ่มเติม : https://ttcqr.com/xgIMNa

- ตรวจสอบสวิทช์น้ำเย็นเปิดอยู่หรือไม่
- หากกดน้ำดื่มอย่างต่อเนื่องจนหมด ต้องรอการทำความเย็นรอบต่อไป เนื่องจากแทงค์น้ำเย็นมีความจุประมาณ 2-3 ลิตร

ลิงค์เพิ่มเติม : https://ttcqr.com/0iab48

- ตรวจสอบสวิทช์น้ำร้อนเปิดอยู่หรือไม่
- หากกดน้ำดื่มอย่างต่อเนื่องจนหมด ต้องรอการทำความร้อนรอบต่อไปประมาณ 15 นาที แทงค์น้ำร้อนมีความจุประมาณ 1 ลิตร

ลิงค์เพิ่มเติม : https://ttcqr.com/Lv0T5E

 เป็นการแจ้งเตือนปกติ ไฟแสดงน้ำร้อน หรือ เย็น จะติดเมื่อมีการทำงานของระบบน้ำร้อนหรือน้ำเย็น

ลิงค์เพิ่มเติม : https://ttcqr.com/ZJlaTu

- กรณีเต้าเสียบแบบ 3 ขา ตรวจสอบการติดตั้งสายดินถูกต้องหรือไม่
- กรณีเต้าเสียบแบบ 2 ขา โปรดติดต่อช่างผู้ชำนาญติดตั้งสายดินจากโครงเครื่องตามตำแหน่งที่ระบุไว้ในคู่มือ เพื่อต่อสายดินในบ้าน
- หากรติดตั้งสายดินถูกต้องแล้ว โปรดติดต่อศูนย์บริการ

- ตรวจสอบระดับพื้นที่วาง หรือ ย้ายตำแหน่งติดตั้ง
- ตรวจสอบงสายน้ำ เข้า + ทิ้ง เกิดการสั่นหรือไม่ โปรดตรวจสอบการสวมสายน้ำให้ชิดและจัดเก็บสายน้ำให้แน่น
- หากเกิดเสียงดังจากภายในตัวเครื่อง โปรดติดต่อศูนย์บริการ
- ในรุ่นถังล่าง จะมีเสียงปั๊มน้ำทำงานเป็นระยะ เป็นเรื่องปกติ

- ทำความสะอาด โดยการล้างช่องถังเก็บน้ำ ก๊อกน้ำ
- ตรวจสอบน้ำที่ใช้

ลิงค์เพิ่มเติม :  https://ttcqr.com/P1MyEe

ลิงค์เพิ่มเติม : https://ttcqr.com/PMTec2

- ตรวจสอบปลั๊กไฟที่ตัวเครื่องและที่เต้าเสียบ หลุดหลวมหรือไม่
- ตรวจสอบมีเศษข้าว หรือ สิ่งแปลกปลอม ค้างในปุ่มกดหรือไม่
หากเครื่องไม่ทำความร้อน หรือ ไม่พบการแสดงผลบนหน้าจอโปรดติดต่อศูนย์บริการ

- หากถอดปลั๊ก หลังข้าวสุก และปิดหม้อไว้นาน อาจทำให้ข้าวบูด โปรดทำการเสียบปลั๊ก และ สั่งอุ่น โดยกดปุ่ม Warm (ไม่ควรอุ่นข้าวเกิน 30 ชม.)
- หากเคยมีข้าวบูด แม้จะล้างหม้อในแล้ว เชื้อแบคทีเรียอาจยังคงหลงเหลือตามฝาหม้อ ขอบยาง ร่องขอบยาง ช่องจุกระบายไอน้ำ โปรดทำความสะอาดอุปกรณ์ดังกล่าวและต้มน้ำในหม้อโดยผสมน้ำส้มสายชู 1 ช้อนชา หลังจากนั้น นำฝาหม้อ ตัวหม้อ หม้อใน ชิ้นส่วน ที่ทำความสะอาดแล้ว ตากแดดแรง 1 - 2 วัน เพื่อให้เชื้อแบคทีเรียหมดไป หากยังพบข้าวบูด ให้ทำซ้ำโดยเน้นทำความตามร่องหรือซอกชิ้นส่วน และตากแดดมากกว่าเดิม

- ลักษณะข้าว เป็นความชอบส่วนบุคคล โปรดตรวจสอบปริมาณน้ำ เติมน้ำให้สัมพันธ์กับปริมาณข้าว หรือ ประเภทของข้าว เช่น ข้าวเก่า ต้องการน้ำมากกว่าอัตราส่วนปกติ
- กรณีอุ่นข้าวต่อเนื่อง อาจทำให้ข้าวแห้งและแข็ง กรณีอุ่นซ้ำ หรือ อุ่นต่อเนื่องควรทำการพรมน้ำ
- กรณีหุงข้าวด้วยน้ำแร่ ซึ่งมีความกระด้างสูงจะทำให้ข้าวแข็งกว่าปกติ

- ลักษณะข้าว เป็นความชอบส่วนบุคคล โปรดตรวจสอบปริมาณน้ำ เติมน้ำให้สัมพันธ์กับปริมาณข้าว หรือ ประเภทของข้าว เช่น ข้าวใหม่ ต้องการน้ำน้อยกว่า หรือ เท่ากับ อัตราส่วนปกติ
- กรณีถอดปลั๊กก่อนจบการทำงานในช่วง 5-10 นาทีสุดท้าย อาจมีผลต่อคุณภาพข้าว  
- กรณีหุงข้าวด้วยน้ำร้อน ข้าวที่แช่น้ำไว้ก่อนหุง หรือ น้ำที่มีค่า PH เกิน 9 อาจทำให้ข้าวนิ่มกว่าปกติ

- ลดปริมาณน้ำ ตรวจสอบปริมาณน้ำให้เหมาะสม
- ซาวข้าวน้อยเกินไป ข้าวบางประเภทต้องซาวหรือล้างหลายครั้ง เพื่อลดการเกิดฟองที่ล้นจากหม้อ

- ปริมาณน้ำไม่สัมพันธ์กับข้าว หรือ ประเภทของข้าว ใส่น้ำน้อยเกินไป
- อุ่นข้าวนานเกินไป
- มีการเติมเครื่องปรุงหรือส่วนผสมหลายชนิดในข้าว
- ระยะเวลาการแช่ข้าวไม่สัมพันธ์กับประเภทและชนิดของข้าว 

- หากหุงข้าวต่อเนื่องขณะที่หม้อในยังร้อนอยู่ โปรดรอให้เย็นลงก่อนหุงครั้งต่อไป
- กรณีใช้โปรแกรมเร่งหุง อาจทำให้ ข้าวแข็งกว่าปกติ เนื่องจากเร่งเวลาการหุง ควรหุงตามปริมาณที่คู่มือกำหนด
- หากพบสิ่งสกปรก หรือ คราบหน้า ติดอยู่บริเวณแผ่นความร้อน โปรดทำความสะอาด
- หม้อชั้นในเสียรูป ทำให้ไม่สัมผัสกับแผ่นความร้อน โปรดเปลี่ยนหม้อชั้นในชิ้นใหม่
- โปรดตรวจสอบฝาหม้อปิดสนิทหรือไม่ การติดตั้งฝาหม้อชั้นใน หรือ จุกระบายไอน้ำ
- เกิดกระแสไฟฟ้าขัดข้องระหว่างหุง

หยดน้ำที่เกิดจากการควบแน่น เป็นอาการปกติ กรณีมีหยดน้ำปริมาณมากแนะนำเช็ดก่อนปิดฝา เพื่อป้องกันข้าวบูด

เมื่อเปิดฝาหม้อ หยดน้ำเกิดจากการควบแน่น เป็นอาการปกติ

- ตรวจสอบขั้นตอนการตั้งเวลาหุงข้าวล่วงหน้า หากตั้งสำเร็จ ไฟ Cook และ Timer จะติดสว่าง
- ตรวจสอบการตั้งนาฬิกาของตัวเครื่อง

- ตรวจสอบ มีเศษข้าวหรือสิ่งแปลกปลอมติดในล็อคหรือไม่
- ตรวจสอบการประกอบฝาชั้นในเรียบร้อยหรือไม่ เนื่องจากเป็นตัวล็อค

- กรณีกดปุ่ม cancel เครื่องจะทำการยกเลิกการทำงาน ให้กด cook
- กระไฟฟ้าขัดข้อง โปรดตรวจสอบปลั๊กไฟ หรือ กระแสไฟฟ้าหลัก

- เวลาการทำงานจริงกับผลลัพธ์อาจแตกต่างกันขึ้นอยู่กับส่วนผสม อุณหภูมิ และ อื่นๆ

- อุ่นข้าวนานเกินจากระยะเวลทำงานปกติของเครื่อง 6 หรือ 12 ชม. ขึ้นอยู่กับรุ่นสินค้า

- อาจเกิดจากการใช้เครื่องใช้ไฟฟ้าหลายชนิดพร้อมกัน หรือ กรณีใช้ปลั๊กพ่วงร่วมกับเครื่องใช้ไฟฟ้าอื่น ควรแยกเต้าเสียบกับเครื่องใช้ไฟฟ้าชนิดอื่น

- อาจเกิดจากการโดนความร้อนโดยตรง ไม่แนะนำให้นำไปตั้งเตาไฟโดยตรง เนื่องจากทำให้สารเคลือบหลุดล่อนได้
- เทน้ำเย็นหรือล้างหม้อในในขณะที่ยังร้อน ควรปล่อยให้หม้อในเย็นตัวก่อนล้าง
- ใช้ของที่คม หรือ แข็ง ขัดภายในหม้อในหรือไม่ เนื่องจากหม้อในมีการเคลือบสารป้องกันการติดหม้อ เพียงใช้ฟองน้ำทำความสะอาดคราบต่างๆ ก็จะหลุดโดยง่าย

ตรวจสอบ ที่รีโมทจะมีปุ่มกดที่เขียนว่า ion เมื่อเรากดปุ่มดังกล่าวในขณะที่ระบบไอออนเปิดอยู่ ไฟแสดงการทำงานของระบบที่ตัวเครื่องจะดับลง ถ้ากดอีดครั้งไฟก็จะติดระบบไอออนจะทำงาน ระบบไอออนผู้ใช้สามารถเลือกได้ว่าจะใช้หรือไม่

การตรวจสอบ มีปัญหาเกี่ยวกับระบบระบายความร้อน ถอดปลั๊กออกเนื่องจากมีการอุดตันของระบบระบายความร้อน ต้องทำความสะอาดต้องระบายอากาศ

การตรวจสอบ ได้มีการสั่งงานให้พัดลมทำงานในระบบจำลองสายลมธรรมชาติ เครื่องไม่ได้มีความผิดปกติแต่อย่างใด เป็นระบบการทำงานของพัดลม ion fan โดยการสั่งงานหรือยกเลิกการทำงาน จะกดปุ่ม rhythm

การตรวจสอบ ตัวเครื่องหรือฟิลเตอร์สกปรกหรือไม่          
                            
การแก้ไขปัญหาเบื้องต้น ทำควมสะอาดหรือเปลี่ยนฟิลเตอร์ ชุดฟิลเตอร์บ้างตัวสามารถถอดออกมาล้างน้ำได้ บางตัวทำความสะอาดโดยการเป่าฝุ่นออก อายุการใช้งานของฟิลเตอร์โดยปกติ 2 ปี หรือขึ้นอยู่กับชั่วโมงของการใช้งานของแต่ละวัน ถ้าสภาพพื้นที่ของการใช้งานมีฝุ่นและสิ่งสกปรกมากอายุการใช้งานของฟิลเตอร์ ก็จะสั้นลงต้องเปลี่ยนฟิลเตอร์ replace ขึ้น เมื่อเปลี่ยนฟิลเตอร์ชุดใหม่จะต้องกดปุ่ม reset ทุกครั้ง

ตรวจสอบ  ปลั๊กไฟหลุดหลวมหรือไม่

การตรวจสอบ ดูว่าฟิลเตอร์ตันหรือไม่ ต้องทำความสะอาดฟิลเตอร์ หลังน้ำเดือดใหม่ๆ น้ำจะไหลออกช้ากว่าปกติ รอสักครู่หลังจากน้ำเดือดใหม่ๆ

ตรวจสอบ ปุ่ม unlock ว่ามีไฟขึ้นอยู่หรือไม่ กดปุ่ม unlock ให้ไฟขึ้นก่อนกดน้ำร้อนทุกครั้ง

ตรวจสอบ  ว่าน้ำร้อนไหลเกินขีดหรือไม่ ไม่ควรเติมน้ำเกินขีดที่กำหนด

ตรวจสอบ หากใช้ครั้งแรกมีกลิ่นใหม่ของตัวกระติก กลิ่นจะหมดไปเองหากใช้ครั้งต่อๆ ไป น้ำที่ใส่ลงไปอาจมีสารเจือปนเช่น คลอรีน ให้ใช้ระบบขจัดกลิ่นคลอรีนซ้ำๆกันหลายๆครั้งเพื่อลดกลิ่นคลอรีน

การตรวจสอบ อาจจะไม่ได้เกิดจากความผิดปกติของตัวกระติกแต่อาจจะเป็นตะกรันจากน้ำ ต้องทำความสะอาดตัวกระติกและขจัดคราบตะกรัน หรือน้ำแร่น้ำกรอง มีแร่ธาตุจำนวนมาก ซึ่งถ้าหากนำมาต้มก็จะเกิดคราบได้ง่ายเป็นคราบสีขาวเห็นได้ชัด คราบดังกล่าวไม่มีอันตรายใดๆ ต่อสุขภาพและสามารถทำความสะอาดออกได้

การตรวจสอบ ดูว่าได้ตั้งอุณหภูมิที่หน้าจอหรือไม่ ให้เลือกอุณหภูมิโดยการกดที่ปุ่มอุ่น/ขจัดคราบตะกรัน ถ้าตั้งอุณหภูมิไว้ที่ต่ำก็จะไม่ค่อยร้อน

การตรวจสอบ เกิดจากตะกรันที่ติดอยู่ด้านในภาชนะตัวกระติก ทำให้ตัวกระติกมีอุณหภูมิสูงเพื่อรักษาความร้อนของน้ำภายในกระติก ไม่ใช่สิ่งผิดปกติแต่อย่างใดแต่ต้องทำความสะอาดและขจัดคราบตะกรัน

การตรวจสอบ ถ้าไฟอุ่นและไฟต้มกระพริบสลับกัน และมีตัวอักษร c11 โชว์ที่หน้าจอให้ตรวจสอบว่ามีน้ำอยู่ภายในกระติกหรือไม่ ปุ่มไฟอุ่นจะกระพริบในจังหวะการเปลี่ยนอุณหภูมิหรือช่วงที่เติมน้ำลงใหม่ ปุ่มไฟต้มกระพริบในระหว่างการขจัดคลอรีน-ขจัดคราบตะกรัน

1. บริษัทโตชิบา ไทยแลนด์ จำกัด ขอให้การรับประกันสินค้าที่ระบุไว้ เฉพาะผลิตภัณฑ์ที่จัดจำหน่ายโดย บริษัท โตชิบาไทยแลนด์ จำกัด
2. บริษัทโตชิบา ไทยแลนด์ จำกัด ขอให้การรับประกันเมื่อสินค้ามีอาการขัดข้อง หรือเสียหายจากความบกพร่องของผู้ผลิต ซึ่งเกิดขึ้นในระหว่างเวลาที่รับประกันโดย ไม่รวมค่าบริการและระบบน้ำยาหลังจาก 1 ปีแรก
3. ผู้ซื้อจะได้รับการประกัน โดยการนำสินค้า มารับการตรวจซ่อมได้ที่ ศูนย์บริการโตชิบา หรือตัวแทนศูนย์บริการที่ได้รับการแต่งตั้งจากบริษัทฯ เท่านั้น
4. กรณีไม่สามารถตรวจสอบวันที่ซื้อได้จากใบกำกับภาษีหรือใบเสร็จรับเงิน บริษัทฯขอสงวนสิทธิ์ตัดสินการรับประกันสินค้าโดยเริ่มนับจากวันที่ผลิตจากโรงงาน ซึ่งแสดงอยู่บนหมายเลขเครื่องของสินค้านั้นๆ หรือ การอ้างอิงจากหมายเลขเครื่องใกล้เคียงกรณีไม่สามารถตรวจสอบหมายเลขเครื่องได้
5. การรับประกันนี้ไม่ครอบคลุมถึงผลิตภัณฑ์ หรือชิ้นส่วนใดๆ ที่ขัดข้องชำรุดเสียหายอันเป็นผล เนื่องจาก
     1. ความเสียหายอันเนื่องมาจากการขนส่ง อุบัติเหตุ การแตกหัก การใช้งานที่ผิดวิธี การทดลอง การสาธิต การซ่อมบำรุง การติดตั้ง การปรับหรือการดัดแปลงตัวเครื่องหรืออะไหล่หรือความประมาทเลินเล่อของลูกค้าหรือบุคคลภายนอก
     2. ขาดการดูแลรักษาละเลยไม่ปฎิบัติตามรายละเอียดที่กำหนดในคู่มือแนะนำการใช้งาน
     3. การนำสินค้าไปรับการบริการซ่อมที่อื่น นอกเหนือจากศูนย์บริการโตชิบา หรือตัวแทนศูนย์บริการที่ได้รับการแต่งตั้งจากบริษัทฯ
     4. การเสียหายจากภัยธรรมชาติ หรือจากเหตุการณ์อื่นๆ ที่มีลักษณะคล้ายคลึงกัน
     5. นำไปดัดแปลง โยกย้ายอุปกรณ์ ส่วนประกอบหรือชิ้นส่วนต่างๆ เป็นต้น
     6. การสึกหรอโดยทั่วไปตามอายุการใช้งานและการฉีกขาด การสึกกร่อน ขึ้นสนิม รอยขูดขีด รอยเปรอะเปื้อน ความเสียหายที่เกิดขึ้นบนพื้นผิว,ส่วนประกอบภายนอกการที่มีสัตว์เข้าไปในเครื่อง และทำลายอุปกรณ์จนชำรุด
     7. อุปกรณ์ภายนอก สี การบุบ หรือความเสียหายภายนอกเครื่อง กล่อง เสียจากเหตุ อื่นๆมิใช่เทคนิคการผลิตหรือคุณภาพอะไหล่
     8. สินค้าเงื่อนไขพิเศษ, สินค้าขายตามสภาพ
6. การรับประกันนี้ครอบคลุมเฉพาะผลิตภัณฑ์ที่ซื้อขายและใช้ภายในประเทศ การใช้ผลิตภัณฑ์ที่ใช้ในบ้านเรือนเท่านั้น มิได้ครอบคลุมไปถึงการใช้งานทางการค้าหรือกิจกรรมส่งเสริมการขาย
7. การรับประกันสินค้านี้ไม่รวมถึงค่าขนส่ง ค่าติดตั้ง และค่าเดินทางการบริการนอกสถานที่
8. การรับประกันนี้ไม่รวมถึง ส่วนประกอบภายนอกทั้งหมด ส่วนประกอบที่เป็นพลาสติก กระจก แก้ว และส่วนประกอบ ที่ต้องการการบำรุงรักษาหรือเสื่อมอายุตามการใช้งาน เช่น ตัวตู้ ลูกบิด ถาดรองน้ำ ชั้นวางของ ถาดใส่ผัก หลอดไฟ ขอบยาง สายยาง ท่อน้ำ ฝาปิดต่างๆ  สายพานทุกชนิด ลำโพง เสาอากาศ ใบพัด รีโมท แผ่นกรองอากาศ ระบบท่อส่งลม ระบบไฟฟ้า และงานติดตั้งอื่นๆ ที่อยู่ภายนอกเครื่องปรับอากาศ  ชิ้นส่วนของระบบเบรค น้ำยาของระบบทำความเย็นที่ต้องใช้ในทุกกรณี และอุปกรณ์เสริมต่างๆ

หมายเหตุ บริษัทฯ ขอสงวนสิทธิ์ในการเปลี่ยนแปลงเงื่อนไขการรับประกัน โดยมิต้องแจ้งล่วงหน้า

TOSHIBA CONTACT CENTER 0-2511-7777

Rev: 032021