การซักผ้า บางครั้งอาจทำให้คุณรู้สึกหงุดหงิดใจ ไม่ว่าจะเป็นกลิ่นตกค้าง เสื้อผ้าสีซีดจาง โปรดตรวจสอบ 5 ข้อต่อไปนี้ที่ควรหลีกเลี่ยงในการซักเพื่อที่คุณจะได้ไม่หงุดหงิดใจกับเสื้อผ้าชุดโปรดของคุณ
อย่าปล่อยให้เกิดคราบสกปรกสะสมบนเสื้อผ้านาน แล้วจึงนำไปซัก
คุณอาจใส่เสื้อผ้าที่ใช้แล้วลงในตะกร้า หรือเครื่องซักผ้าและรอจนกว่าเสื้อผ้าจะเต็มเครื่องจึงทำการซัก เพื่อประหยัดพลังงานและเงิน แต่การกระทำดังกล่าวอาจก่อให้เกิดผลเสียมากกว่าผลดี
ประการแรก เครื่องซักผ้าจะกลายเป็นแหล่งเพาะเชื้อแบคทีเรียจากสิ่งสกปรกที่หมักหมมในเสื้อผ้า ประการที่สอง อาจดูเหมือนว่าการซักผ้าโดยใส่ให้เต็มเครื่องจะช่วยให้จำนวนครั้งในการซักน้อยลง ทำให้ประหยัดพลังงานและประหยัดเงินมากขึ้น แท้จริงแล้ว การใส่เสื้อผ้าจนเต็มจะกินไฟค่อนข้างมาก ดังนั้น ให้ใส่เสื้อผ้าที่ผ่านการใช้แล้วในตะกร้าซักผ้า และพยายามอย่าให้เกิน 70% ของปริมาณที่สามารถซักได้สูงสุดของเครื่องซักผ้า
อย่าซักเสื้อผ้าต่างชนิดด้วยกัน
ในชีวิตประจำวันของเรา การจดจำวิธีการซักเสื้อผ้าทั้งหมดของเราอย่างถูกต้องอาจเป็นเรื่องยาก สิ่งหนึ่งที่เรามักจะทำผิดพลาดเนื่องจากชีวิตประจำวันอันรีบเร่งของเรา ก็คือการซักเสื้อผ้าทุกชนิดรวมกัน
การซักถุงเท้าและชุดชั้นในพร้อมกับเสื้อเชิ้ตและแจ็คเก็ตอาจทำให้เกิดการปนเปื้อนของแบคทีเรีย อีกหนึ่งปัญหาหลักที่เกิดจากการซักเสื้อผ้าต่างชนิดกันด้วยกันก็คือทำให้เสื้อผ้ามีสีซีดจางและสีตกในกรณีที่ซักเสื้อผ้าสีเข้มปนกับเสื้อผ้าสีอ่อน หลักการง่ายๆ ที่ควรปฏิบัติคือ ให้ซักถุงเท้าและชุดชั้นในแยกกันกับเสื้อผ้าที่เหลือของคุณ และให้แช่เสื้อผ้าสีเข้มและเสื้อผ้าสีอ่อนแยกกัน
อย่าลืมรูดซิปเสื้อผ้าก่อนใส่ลงในเครื่องซักผ้า
คุณจำเป็นจะต้องระวังซิปติดเสื้อผ้าก่อนใส่ในเครื่องซักผ้า ไม่ว่าจะเป็นซิปโลหะหรือซิปพลาสติก ซิปติดเสื้อผ้าเหล่านี้อาจไปเกี่ยวเข้ากับ เสื้อผ้าชิ้นอื่นๆ ได้ และไม่เพียงแต่จะทำให้เสื้อผ้าของคุณพันกันเท่านั้น แต่ยังทำให้เกิดรอยขีดข่วนที่ผนังด้านในของถังซักได้เมื่อซักด้วยความเร็วรอบสูง
ดังนั้น อย่าลืมรูดซิปทั้งหมดบนเสื้อผ้าทุกตัวให้เรียบร้อยก่อนนำไปใส่ลงในเครื่องซักผ้า และตรวจสอบทุกกระเป๋าดูว่ามีสิ่งของที่ยังไม่ได้นำออกหรือไม่ เพื่อป้องกันไม่ให้สิ่งของดังกล่าวสร้างความเสียหายให้กับเครื่องซักผ้า
ห้ามปิดฝาเครื่องซักผ้าทันทีหลังการซัก
คุณอาจคิดว่าการปิดฝาเครื่องซักผ้าทันทีทุกครั้งหลังนำผ้าออกจากเครื่องซักผ้าใหม่ๆ เป็นแนวทางปฏิบัติที่ดี แท้จริงแล้วคุณควรเปิดฝาทิ้งไว้ครู่หนึ่ง ภายในเครื่องซักผ้าจะมีความชื้นสะสมหากไม่มีการระบายอากาศที่เพียงพอ ทำให้กลายเป็นแหล่งสะสมของเชื้อแบคทีเรีย ดังนั้น ควรเปิดฝาเครื่องซักผ้าทิ้งไว้เป็นเวลา 1 หรือ 2 ชั่วโมง เพื่อให้ถังซักแห้งสนิทก่อน
อย่าใส่ผงซักฟอกเยอะเกินไป
ในบางครั้ง คุณอาจคิดว่าวิธีที่ดีที่สุดที่จะรับมือกับเสื้อผ้าสกปรกกองโต คือการใส่ผงซักฟอกในปริมาณมากๆ ในความเป็นจริงนั้น การใส่ผงซักฟอกมากขึ้นไม่ได้ช่วยให้คุณขจัดคราบสกปรกได้ดีขึ้น
การเพิ่มปริมาณผงซักฟอกไม่เพียงแต่ไม่ช่วยให้ซักผ้าได้สะอาดขึ้น ในทางกลับกัน การกระทำดังกล่าวส่งผลให้ล้างผงซักฟอกออกยากกว่าเดิมและผงซักฟอกที่ตกค้างยังอาจก่อให้เกิดอาการระคายเคืองบริเวณผิวหนัง วิธีที่ดีที่สุดในการจัดการกับเสื้อผ้ากองโตคือ การนำเสื้อผ้าไปแช่และขยี้ตามแนวรอยเปื้อนออกก่อน แล้วจึงนำไปซักตามขั้นตอนปกติ
ให้ฟังก์ชัน SenseDose ของ Toshiba ช่วยจัดการเรื่องปริมาณผงซักฟอกให้กับคุณ
เราจะรู้ได้อย่างไรว่าควรใช้ผงซักฟอกปริมาณเท่าใดจึงจะเหมาะสม เราขอแนะนำให้คุณรู้จักฟังก์ชันจ่ายผงซักฟอกอัตโนมัติ ซึ่งเป็นฟังก์ชันที่เป็นประโยชน์อย่างมากในเครื่องซักผ้าบางรุ่นด้วยฟังก์ชัน SenseDose ของ Toshiba เพียงแค่ใส่ผงซักฟอกลงในเครื่อง จากนั้นเครื่องซักผ้าจะคำนวณปริมาณผงซักฟอกให้เหมาะสมกับน้ำหนักผ้า และระดับน้ำโดยอัตโนมัติ